ฉาบความสวย หล่อ หน้าใส แต่แฝงไว้ด้วยความร้ายลึก

คำกล่าวข้างต้นคงจะไม่เกินจริงเท่าไหร่ สำหรับกลุ่มคนที่เข้ากับ Antisocial Personality Disorder ซึ่งคนกลุ่มนี้ยังสามารถแยกย่อยออกเป็นอีก 2 ลักษณะให้เราได้สังเกตกัน โดยความแตกต่างของคนที่เป็น Antisocial Personality Disorder แบบที่ภายนอกดูดี ไฮโซ หน้าตาดี ใส่สูท ผูกเนคไทด์ ทำงานที่ดูดีมีระดับ พูดจาไพเราะ มักจะก่ออาชญากรรมในด้านเศรษฐกิจ ฉ้อโกง หรือที่พบบ่อยก็คือในกลุ่มนักการเมืองไม่ว่าระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น เราเรียกคนลักษณะนี้ว่า White Collar Antisocial Personality ซึ่งเป็นการยืมคำมาจากวงการแรงงานที่มีการแยกคนทำงานสบายๆในออฟฟิศ นั่งอยู่ในห้องแอร์ การศึกษาสูง ใส่เชิ้ตขาวผูกไทด์ว่าพวก White Collar ตรงข้ามกับพวก Blue Collar ซึ่งหมายถึงพวก กรรมกรที่ต้องทำงานหนักๆใช้แรงงาน อาบเหงื่อต่างน้ำ โดยพวก Blue Collar Antisocial Personality ก็มักจะเป็นอาชญากรประเภทโหดๆเถื่อนๆ เรียกว่าดูออกว่าร้ายด้วยตาเปล่า มักกระทำอาชญากรรมประเภทที่เป็นความรุนแรงทางกายภาพเป็นส่วนใหญ่ เช่น ฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย ฉกชิงวิ่งราวเป็นต้น

ทำไมคนเราถึงได้กลายเป็น Antisocial Personality Disorder ได้ล่ะ?

สาเหตุการนั้นมีที่มาจากหลายปัจจัย ปัจจัยแรกที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องความผิดปกติของสมองที่ทำให้ไม่สามารถมีความรู้สึกเห็นอดเห็นใจได้ (Empathy) นอกจากนี้ปัจจัยด้านการเลี้ยงดู และประสบการณ์ที่เผชิญมาในชีวิตก็มีส่วนสำคัญเช่นกันในการบ่มเพาะให้กลายเป็น Antisocial Personality Disorder

ในบทความเรื่อง “ ถ้าน้องหมูเด้ง เกิดมาเป็นผู้ชาย จะเกิดอะไรขึ้น “ นั้น หมอได้มีการพูดถึงเรื่องปมอีดิปุสไว้บ้างแล้วซึ่งจากตรงนี้สามารถอธิบายได้ว่าทำไมคนบางคนถึงกลายมาเป็น Antisocial Personality Disorder ลองนึกภาพว่าเด็กผู้ชายคนนึงในวัยที่เค้าเริ่มเลียนแบบพ่อ เพื่อให้ได้รับความรักความสนใจจากแม่ แล้วสิ่งที่เค้าเห็นจากพ่อของเค้าคือ พ่อมักจะโกหกเสมอ โกหกเก่งจนไม่รู้อะไรจริงอะไรเท็จ และดูเหมือนพ่อเองก็จะภูมิใจด้วยซ้ำที่ทำอย่างนั้นได้ พ่อที่มักจะใช้ความรุนแรง พ่อที่ไม่เคยรักษาสัญญาแต่หาข้ออ้างแถไปได้เรื่อยๆ พ่อที่โกง เอาเปรียบคนอื่นแล้วกลับมาคุยโม้ให้คนในบ้านฟังว่าตนเองนั้นเก่งที่ทำอย่างนั้นได้อย่างหน้าชื่นตาบาน บางทีเลวร้ายถึงขนาดสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองด้วยการสอนลูกๆอีกว่า เรื่องแบบนี้ใครๆก็ทำกัน เป็นพ่อค้าหลอกลวงลูกค้าบ้างก็ธรรมดา หลอกได้เยอะๆก็จะได้รวยๆไง เป็นตำรวจรีดไถชาวบ้านบ้างก็ปกติ คิดว่าเด็กที่เห็นตัวอย่างแบบนี้จะโตมาเป็นคนแบบไหนกันล่ะครับ

นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้กลุ่ม Antisocial Personality Disorder รู้สึกเกลียดชังสังคม และอยากจะทำร้ายทุกๆคนในสังคม ก็เนื่องมาจาก เขารู้สึกว่าเขาเคยถูกสังคมนี้ทำร้ายมาก่อน หลายคนเคยมีประสบการณ์การถูกทารุณกรรม ถูก Bully ถูกโกงมาก่อน จนรู้สึกเคียดแค้นและคิดว่าวันนึงฉันจะต้องเอาคืนจากสังคมนี้ให้สาสม ให้คนอื่นมันเจ็บอย่างที่ฉันเคยเจ็บบ้าง ในทางจิตวิทยามีทฤษฎีที่เรียกว่า Victim turn to Abuser กล่าวคือผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมบางคนอาจผันตัวเองไปเป็นผู้ก่ออาชญากรรมได้ในอนาคตเพื่อเป็นการเอาคืนกับการที่เคยถูกทำร้าย เราพบว่าอาชญากรทางเพศที่ชอบก่อคดีข่มขืนจำนวนมากเคยมีประวัติการถูกล่วงละเมิดทางเพศมาก่อนในวัยเด็ก

แล้วเราทำอะไรกับกลุ่ม Antisocial Personality Disorder ได้บ้าง ?

มีการพยายามศึกษาถึงวิธีการในการที่จะรักษาหรือเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็น Antisocial Personality Disorderให้กลับมาเป็นคนปกติ และไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสังคม พบว่าโดยส่วนใหญ่แล้วมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วย เพราะคนเหล่านี้มักไม่ได้คิดว่าตนเองผิด แต่สังคมต่างหากที่ผิด นอกจากนี้ความผิดปกติของสมอง และปมที่ฝังลึกตั้งแต่ในวัยเด็กก็เป็นข้อจำกัดที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของคนเหล่านี้มักจะทำได้ยาก ดังนั้นเมื่อการรักษาไม่ค่อยได้ผลดีนักสิ่งที่จะปกป้องสังคมจากการกระทำของคนเหล่านี้ได้ดีที่สุดก็คือการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และแยกคนเหล่านี้ออกจากคนดีๆปกติในสังคมเช่น การเอาไปจำคุก หรืออยู่ในสภาวะที่ถูกควบคุมมิให้สามารถไปก่อความเดือดร้อนต่อผู้อื่นๆได้

แม้ว่าการรักษาจะมีโอกาสสำเร็จไม่มากนักแต่ก็มีงานวิจัยที่พูดถึงการรักษาบางรูปแบบที่อาจจะมีส่วนช่วยได้บ้าง เช่น การใช้ยาบางชนิดที่มีส่วนช่วยในการควบคุมอารมณ์ของผู้ป่วย และการทำจิตบำบัดโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการรับมือกับผู้ป่วย Antisocial Personality Disorder นอกจากนี้เราพบว่าในวัยรุ่นที่มีแนวโน้มจะมีลักษณะของ Antisocial Personality Disorder หากได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่เนิ่นๆ พบว่ามักจะมีโอกาสสำเร็จในการรักษาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่าในผู้ใหญ่ เข้าทำนอง “ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก“ นั่นเอง

เป็นอย่างไรบ้างครับได้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับ Antisocial Personality Disorder ซึ่งเป็นลักษณะของบุคคลที่เป็นอันตรายต่อสังคมกันแล้ว นับจากนี้หมออยากให้ทุกๆคนรู้จักระมัดระวังตนเองเวลาที่ได้พบเห็นบุคคลที่มีแนวโน้มของ Antisocial Personality Disorder และพึงระวังไว้เสมอว่าคนเหล่านี้เราไม่สามารถตัดสินได้จากการมองเพียงคุณสมบัติภายนอกเพียงผิวเผิน จะรักใครจะเชื่อใครโดยเฉพาะหากเรื่องนั้นจะต้องมีความเสี่ยงที่กระทบต่อตัวเราเอง ควรต้องศึกษาข้อมูล ประวัติความเป็นมาของบุคคลนั้นให้ดี จะให้ดีที่สุดลองให้เวลาเป็นตัวช่วย ได้คบหา ได้ลองศึกษากันซักระยะก่อนที่จะร่วมลงทุน ยิ่งดูกันนานๆก็ยิ่งดี เดี๋ยวปีศาจมันจะค่อยๆเผยตัวให้เราเห็นได้เองครับ