ถ้าน้องหมูเด้ง เกิดมาเป็นผู้ชาย จะเกิดอะไรขึ้น


ชั่วโมงนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะได้ยินแต่ผู้คนพูดคุยกันถึงน้องหมูเด้ง ลูกฮิปโปตัวน้อย เพศเมีย ที่แสนน่ารักสมาชิกใหม่ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ความน่ารักของน้อง ทำให้ทุกๆคนที่ได้สัมผัสอดที่จะอมยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ ซึ่งในฐานะความเป็นจิตแพทย์หมอก็พลอยยินดีไปด้วยเมื่อเห็นใครๆมีความสุขนะครับ แม้แต่คนไข้ของหมอเองช่วงนี้ก็มีหลายคนที่มีอาการดีขึ้นก็เพราะตามข่าวน้องหมูเด้งนี่แหละ 555 (เรื่องของสัตว์ ที่จะช่วยให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นได้อย่างไร จะเอาไว้คุยกันวันหลังนะครับ)

แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่ทราบ ก็คือ ฮิปโป เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หมอสนใจเรื่องจิตวิทยา และนำมาสู่การเลือกอาชีพเป็นจิตแพทย์ในวันนี้ แต่ฮิปโปตัวนั้น ไม่ใช่น้องหมูเด้ง แต่เป็นลูกฮิปโป เพศผู้ ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในสวนสัตว์แห่งหนึ่ง แถวบ้านของหมอเอง เมื่อหลายปีก่อน (อย่ารู้เลยนะว่ากี่ปี 55 )

สิ่งที่หมอจำได้ไม่ลืมเลยเกี่ยวกับน้องฮิปโปตัวนั้นก็คือ มันมีบาดแผลเต็มตัวเลย ซึ่งเมื่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เค้าก็บอกว่ามันโดนพ่อฮิปโปกัดเอานั่นเอง เจ้าหน้าที่เค้ายังบอกอีกว่าในจังหวะที่คุณแม่ของน้องฮิปโป เค้าคลอดน้องออกมาเป็นช่วงเวลาดึกพอดี ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ทันสังเกตุในตอนที่น้องคลอด พอคลอดมาปุ๊บก็เลยโดนพ่อกัดเอา ถ้าเจ้าหน้าที่มาช่วยช้าไปอีกซักหน่อยน้องอาจจะบาดเจ็บมากจนสู่ขิตไปเลยก็เป็นได้

เอ๊ะ แล้วทำไมพ่อฮิปโป มันต้องกัดลูกของมันด้วยล่ะ ต้องบอกว่า สิ่งนี้มันเป็นสัญชาติญานของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายๆชนิดเลยครับ

ในธรรมชาติเวลาที่แม่ฮิปโปมันท้องแก่ และรู้ตัวว่าจวนจะคลอดลูกแล้ว มันจะปลีกตัวจากฝูงเข้าไปอยู่ในป่าลึก เมื่อคลอดลูกออกมาแล้วก็จะต้องดูก่อนว่าลูกที่ออกมาเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ถ้าเป็นตัวเมีย แม่ก็พาน้องกลับเข้าฝูงมาเลี้ยงดูกันในครอบครัวใหญ่ได้ ในครอบครัวใหญ่ของฮิปโปซึ่งจะมีสมาชิกอยู่นับสิบตัว แต่สิ่งที่แปลกอย่างหนึ่งคือ ในครอบครัวใหญ่นี้จะมีคุณพ่อฮิปโปเป็นผู้ชายเพียงตัวเดียวในฝูงนี้ สมาชิกที่เหลือก็จะมีแม่ใหญ่ แม่รอง คุณนายที่ 3 4 5 และบรรดาลูกๆสาวๆ มี เจ๊ใหญ่ เจ๊รอง ไล่ลำดับกันไป อย่างน้องหมูเด้งนี่ ก็นับเป็นน้องสาวคนสุดท้อง ถ้าเป็นฮิปโปแต้จิ๋ว ก็ต้องเรียกว่า “อาโซ้ยหมวย “ เน้นว่าครอบครัวนี้มีแต่ผู้หญิง มีแต่ตัวพ่อที่เป็นหัวหน้าฝูงตัวเดียวที่เป็นผู้ชาย ฟังดูคล้ายๆสิ่งที่เรียกว่า ฮาเร็ม เลยใช่มั๊ยล่ะครับ

แล้วถ้าเกิดน้องฮิปโปคลอดออกมาเป็นผู้ชายล่ะ แม่ฮิปโปก็จะเลี้ยงดูน้องอยู่ในป่าตามลำพังซักระยะนึงจนน้องหย่านมได้ แล้วแม่ก็กลับเข้าฝูงไป ทิ้งให้น้องหากินส่งเสียเลี้ยงดูตัวเองอยู่ในป่า จนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่และแข็งแรงพอ รวมถึงมีความต้องการตามธรรมชาติที่อยากมีคนรู้ใจซักคนมาเป็นแฟน น้องก็จะต้องเดินทางออกแสวงหาสาวฮิปโปมาเป็นคู่ใจ แต่สาวๆทุกตัวก็จะมีสังกัดอยู่แล้ว อย่างนี้มันก็ต้องท้าดวลกันหน่อย ถ้าฮิปโปหนุ่ม ชนะจ่าฝูงเจ้าของฮาเร็มเดิมได้ ก็เอาสาวๆทั้งฝูงไปเลยจ้า และในธรรมชาติก็จะมีบ่อยครั้งที่ฮิปโปหนุ่มกลับเข้ามายังฝูงเดิมที่พ่อและแม่ของมันอยู่ และท้าประลองกับพ่อเพื่อแย่งสาวๆในฝูงซึ่งก็รวมถึงแม่ของมันด้วย

ดังนั้นทุกคนคงพอจะเข้าใจแล้วใช่มั๊ยครับว่า ทำไมพ่อฮิปโปต้องจัดการกับลูกฮิปโปตัวผู้ที่จะเกิดมาทุกตัว ก็เหมือนการชิงกำจัดคู่แข่ง ก่อนที่วันนึงจะโตขึ้นมาเป็นภัยที่ท้าทายอำนาจของตนเอง อาจจะฟังดูโหดร้าย แต่มันก็เป็นสัญชาติญานสัตว์โลกที่มันต้องเป็นเช่นนั้นเอง และอย่างที่บอกไป ในสัตว์หลายๆชนิดก็มีวัฒนธรรมฮาเร็มแบบนี้เช่นกัน แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด เช่น สัตว์บางชนิดยอมให้ตัวผู้ที่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ในฝูงได้ แต่พอโตแล้วก็ต้องออกไปอยู่ดี คนไทยเราอาจจะคุ้นเคยกับนิทานพื้นบ้านเรื่องทรพีทรพา(ที่มาของการที่เราเรียกลูกเนรคุณว่า ลูกทรพี) จะเห็นว่าธรรมชาติในควายก็มีลักษณะที่คล้ายๆกัน

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมนุษย์ล่ะ

ตอนแรกที่หมอได้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับธรรมชาติที่แปลกประหลาดของพวกฮิปโปก็ทำให้หมอซึ่งตอนนั้นก็ยังเด็กๆอยู่ ก็ได้ไปศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม จนได้รู้จักสิ่งหนึ่งที่เรียกกันว่า ปมอีดีปุส (Oedipus Complex) ซึ่งปมนี้มีที่มาจากตำนานของกรีก กล่าวถึงกษัตริย์เมืองหนึ่งมีโหรทำนายว่าลูกชายที่คลอดมาเป็นกาลีบ้านกาลีเมืองและจะเป็นคนที่มาฆ่าพ่อในอนาคต (พล็อตเรื่องคล้ายๆสังข์ทอง”) เมื่อทราบดังนั้นกษัตริย์ก็เลยพาลูกน้อยไปทิ้งไว้กลางทะเลทราย แต่ด้วยบุญญาธิการก็รอดตายมาจนเติบโต ชื่อว่า อิดีปุส เมื่อเจริญวัยขึ้นก็ได้เล่าเรียนวิชาจนมีความสามารถแก่กล้า และรวบรวมสมัครพรรคพวกไว้ได้มากมาย ถึงวันหนึ่งก็เดินทางมาถึงเมืองพ่อตัวเอง (ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นพ่อ) ก็เลยบุกเข้าโจมตียึดครองซะเลย แล้วก็ได้ฆ่าพ่อสำเร็จตามคำทำนาย พอยึดเมืองได้แล้วก็เข้าไปในฮาเร็มของพ่อที่มีสาวๆสวยๆอยู่มากมายทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ อิดีปุสก็เลยจัดการเอามาเป็นของตัวเองซะเลย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแม่ของตัวเองด้วย (แต่เอาจริงๆคนไม่รู้ก็ไม่ผิดอ่ะนะ) นี่คือที่มาของคำว่าปมอิดีปุส

หลักการง่ายๆของมันในทางจิตวิทยาก็คือ ทฤษฎีนี้เค้าอธิบายว่าเด็กๆโดยเฉพาะในช่วงวัย 3-5 ขวบ จะมีความรัก หรือติด พ่อแม่ที่มีเพศตรงข้ามกับตนเอง และรู้สึกต่อต้าน หรือพยายามแข่งขันเปรียบเทียบกับพ่อแม่ที่เป็นเพศเดียวกับตนเอง เช่น ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย ก็จะรักแม่ ติดแม่ จนถึงขั้นหวงแม่เลยก็ว่าได้ แต่จะรู้สึกพยายามจะเปรียบเทียบ หรือแข่งขันกับพ่อในแทบทุกเรื่อง ในผู้หญิงก็จะกลับกัน เด็กผู้หญิงก็จะติดพ่อมาก และดื้อๆกับแม่เช่นกัน

ปมอีดิปุสนี้ อธิบายเหตุผลของพฤติกรรมหลายๆอย่างของมนุษย์ที่เราพบเห็นกัน และอธิบายถึงสาเหตุของความผิดปกติทางจิตในหลายๆสภาวะได้เช่นเดียวกัน

ทำไมเด็กผู้ชายถึงเลียนแบบพ่อ เด็กผู้หญิงถึงเลียนแบบแม่ ??? ถ้าอธิบายแบบอิดีปุส ก็ต้องบอกว่า ก็เพราะเด็กผู้ชายรักแม่มาก และเห็นว่าแม่รักผู้ชายแบบพ่อ ดังนั้นคิดง่ายๆเลยว่าถ้าฉันต้องการให้แม่รัก ฉันก็ต้องทำตัวแบบนี้แหละ แม่ถึงจะรัก และบางทียิ่งต้องทำให้ดีมากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นสิ่งที่พ่อประพฤติปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี ก็จะได้รับการเลียนแบบจากลูกชายไปโดยอัตโนมัติ เราจะเห็นได้ว่าเด็กผู้ชายจะก๊อปปี้บุคคลิกหลายๆอย่างของพ่อ ทั้งการแต่งตัว วิธีพูด อาหารการกิน  เด็กบางคนพยายามจะเอาอะไรมาคาบให้เหมือนบุหรี่เพราะเห็นพ่อสูบบุหรี่ ยิ่งกว่านั้นคือ คุณธรรมจริยธรรมที่คนที่เป็นพ่อแสดงออกมา เช่น ถ้าเด็กเห็นพ่อที่มีความมีวินัย ตรงต่อเวลา รักษาสัญญา เด็กก็จะยึดถือเป็นค่านิยมประจำใจของตนเองเช่นเดียวกัน ดังนั้น ถ้าใครที่เป็นพ่อและกำลังมีลูกชายอยู่ในช่วงวัยดังกล่าว คุณจะต้องระมัดระวังมากเลยว่าทุกสิ่งที่คุณแสดงออกไป สิ่งนั้นจะกลายเป็นลักษณะนิสัยของลูกคุณไปโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้น อยากให้ลูกดี จงทำแต่สิ่งดีให้ลูกเห็น

ที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวปกติ

แต่สำหรับในบางครอบครัวที่ไม่ได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบดังที่กล่าวไป ปมอิดีปุสก็จะแสดงอิทธิพลของมันออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง เช่น เมื่อเด็กผู้หญิงต้องการความรักจากพ่อ  พ่อไม่ได้อยู่ให้เธอรักเช่น พ่ออาจจะเสียชีวิตไป หย่ากับแม่ หรือแทบไม่ได้อยู่บ้านเลยเพราะติดกิ๊ก หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เด็กผู้หญิงก็จะรู้สึกขาด และโหยหา “พ่อ” อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อเธอได้มาพบกับ สิ่งที่เป็นสัญญลักษณ์เสมือนพ่อ เช่น เจ้านายผู้ชาย รุ่นพี่ผู้ชาย หมอผู้ชาย หรือแม้แต่พระ(ซึ่งก็เป็นผู้ชาย) ก็จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกรักหรืออาจจะถึงขั้นหลงอย่างรุนแรงได้ ชนิดที่ว่าขอให้ทำอะไรฉันยอมทำให้ทุกอย่าง ในด้านที่ดี เช่น หมอบอกให้ลดน้ำหนัก ก็จะตั้งใจทำอย่างจริงจังมาก (เพราะหมอก็คือพ่อ ฉันอยากให้พ่อรัก ฉันต้องเชื่อฟังทุกอย่าง) แต่ในทางด้านมืดก็มีเหมือนกันเช่น ไปติดพระบางรูปแล้วถูกชวนให้บริจาคเงินเยอะๆ ก็ยอมขายบ้านขายรถ ทำบุญจนหมดตัวเลยก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ (เพราะคิดว่าพระคือพ่อ พ่อขออะไรก็ต้องให้สิ เดี๋ยวพ่อไม่รัก)

ในบางครอบครัว มีพ่อแม่อยู่ครบ แต่พ่อแม่ไม่รักกัน แสดงออก ด่าว่าอีกฝ่ายให้ลูกเห็นอยู่เสมอ เด็กเมื่อเห็นดังนั้น แทนที่เด็กผู้ชายอยากจะเลียนแบบพ่อเพื่อให้แม่รัก แต่ในเมื่อพ่อแบบนี้แม่ไม่รักนี่นา ฉันก็จะต้องทำตัวตรงกันข้ามไปเลย เช่น บางครั้งเราจะเห็นบ่อยๆที่ลูกมีพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับพ่อแม่โดยสิ้นเชิง เช่น พ่อที่ขี้เหนียวมากๆ พ่อมาถึงรุ่นลูกชายก็จะสุรุ่ยสุร่ายมากๆไปเลย เป็นต้น

หรือในบางครั้ง ลูกชายอยากจะเลียนแบบพ่อ แต่สิ่งที่พ่อเป็นนั้นมันเลียนแบบยากเหลือเกิน และพ่อก็ไม่ได้พยายามทำให้มันง่ายขึ้นด้วย เช่น ลูกเห็นพ่อเป็นคนมีระเบียบวินัย ทำอะไรละเอียดรอบคอบ ก็อยากทำตามบ้าง แต่พ่อก็ดันเคร่งครัดมากซะจนไม่ว่าลูกทำยังไงก็ไม่ดีพอซะที จนลูกท้อแท้ไปเลยก็เลยเลิกเลียนแบบ ไปทำนิสัยที่ตรงกันข้ามไปเลย

บางครอบครัวแม่ไม่ได้แสดงออกให้ชัดเจนว่าพฤติกรรมแบบไหนที่เป็นที่ยอมรับ เช่น พ่อที่ชอบตบตีทำร้ายแม่ แต่แม่ก็ทนมาตลอด ทำให้ลูกชายที่มองดูอยู่ก็เข้าใจไปว่า การเป็นผู้ชายที่ตบตีผู้หญิงแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี ก็จะเลียนแบบพฤติกรรมนั้น เช่นเดียวกับพฤติกรรมเลวร้ายอื่นๆ เช่นการเอาเปรียบคนอื่น ทุจริต คดโกง หากคนเป็นพ่อปฏิบัติสิ่งนี้อยู่เป็นอาจิณและแม่เองก็ไม่ได้แสดงออกให้เห็นว่ามันไม่ดี สิ่งนี้ก็จะกลายเป็นคุณธรรมประจำครอบครัว ที่ลูกๆก็จะยึดถือกันต่อๆไปว่า โกงคนอื่นก็ได้ เอาเปรียบคนอื่นก็ดี เป็นต้น

คำว่าการเลียนแบบพ่อแม่นี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งไปถึงระดับที่เป็นการเลียนแบบทางเพศสภาพด้วย ปมอิดีปุสคือคำอธิบายที่ว่าทำไมเด็กผู้ชายถึงเป็นผู้ชาย และแสดงออกในแบบที่ผู้ชายเค้าเป็นกัน  และทำไมเด็กผู้หญิงถึงเป็นผู้หญิง ชอบเล่น ชอบทำกิจกรรม มีบุคคลิก นิสัย ในแบบที่ผู้หญิงเป็น ดังนั้นกลุ่มคนที่มีเพศสภาพแตกต่างหลากหลาย เช่น LGBTQ ก็สามารถอธิบายการเกิดขึ้นของลักษณะทางเพศสภาพของพวกเขาและเธอเหล่านั้นด้วยปมอิดีปุสได้เช่นเดียวกัน

เป็นยังไงกันบ้างครับ ได้รู้กันแล้วใช่มั๊ยครับว่าถ้าน้องหมูเด้งเกิดมาเป็นผู้ชายจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของน้อง ส่วนน้องฮิปโปบอยในวันนั้น และความสนใจในเรื่องปมอิดีปุสก็ได้ทำให้หมอจอมกลายมาเป็นจิตแพทย์ในวันนี้

นี่แค่ปมอิดีปุสเรื่องเดียวนะครับก็สามารถที่จะอธิบายพฤติกรรมและปัญหาทางสุขภาพจิตของคนเราได้เยอะเลยใช่มั๊ยล่ะครับ ในทางจิตวิทยายังมีทฤษีที่น่าสนใจอีกเยอะแยะเลยนะครับ ไว้มีโอกาสหมอจะนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสหน้านะครับ



Credit :

ปรึกษาแนวทางการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางและนัดหมายแพทย์

ช่องทางการติดต่อ · โทรศัพท์: 090-959-9304 · LINE: @JOYOFMINDS