เปิดใจยอมรับตัวเองอย่างไร ในวันที่รู้สึกว่าเราแตกต่าง

ลองคิดดูว่าหากคนเราเหมือนกันหมดทุกคน โลกนี้คงจะน่าเบื่ออย่างแน่นอน เพราะทุกคนจะชอบเหมือนกัน คิดตัดสินใจในทางเลือกเดียวกัน ไม่ต่างจากหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมมาแล้ว ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นมนุษย์เราคงอึดอัดใจไม่น้อย เราทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมความหลากหลายและความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง สีผิว นิสัย บุคลิกภาพต่างๆ หรือแม้แต่ความแตกต่างด้านเพศ ที่ไม่ใช่แค่ชาย หรือหญิงเท่านั้น ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้ไม่ใช่ข้อบกพร่องแต่กลับเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ทำให้เราแต่ละคนดูน่าสนใจขึ้น

ถ้าพูดถึงความแตกต่างทางเพศหรือลักษณะทางเพศ ในอดีตเราจะจำกัดว่า มีเพียงเพศหญิงหรือชายเท่านั้น และถูกปลูกฝังว่าผู้หญิงจะไว้ผมยาว ใส่กระโปรง ชอบเล่นตุ๊กตา ในขณะที่ผู้ชาย มีแนวโน้มที่จะเล่นผาดโผน เป็นผู้นำ และกล้าตัดสินใจมากกว่า ซึ่งย้อนกลับไปในอดีตกาลที่เป็นเช่นนั้น เพราะหากเราอาศัยอยู่ในป่าและต้องออกล่าสัตว์ ผู้ชายย่อมมีกายภาพที่อำนวยกว่าผู้หญิงเป็นแน่ แต่ในปัจจุบันสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เราไม่ต้องออกไปล่าสัตว์หรือสืบพันธุ์เพียงอย่างเดียวเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ของเราไว้เช่นแต่ก่อน ไม่ว่าเพศไหนก็ทำงานนอกบ้านเหมือนกัน ทุกคนล้วนมีสิทธิในความชอบและทำสิ่งต่างๆอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยก และไม่ได้มีเพียงหญิงหรือชายเท่านั้น แต่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้นถึง 19 เพศ เมื่อสังคมเปิดกว้างขึ้นก็เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ออกจากกรอบกล้าเป็นตัวเองในแบบที่แตกต่าง เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครกำหนดอีกต่อไปว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง คนเราเกิดมาไม่เหมือนกันตั้งแต่เริ่ม ลักษณะทางเพศจึงมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น ดังนั้นการพยายามจำแนก มองแบบแบ่งแยกเพราะแตกต่าง ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับตัวเรา ความหลากหลายของมนุษย์บนโลกใบนี้ต่างหากที่เราควรทำความเข้าใจ

ว่าด้วยเรื่องการเข้าใจความหลากหลายของมนุษย์(Human Diversity) นั้น เป็นแนวคิดทางจิตวิทยาเชิงบวก (Positive psychology) ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายของบุคคล ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เรามีความแตกต่างระหว่างบุคคลนี้เกิดมาจากปัจจัย 2 อย่าง คือ พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม

เมื่อปัจจัยทั้งสองประกอบรวมกันก็จะทำให้มนุษย์มีความหลากหลายและแตกต่างกันไป คนแต่ละคนต่อให้เป็นพี่น้องกันแต่ถูกเลี้ยงมาในสภาพที่แตกต่างกันก็ส่งผลให้นิสัยของเราไม่เหมือนกันไปด้วย เด็กบางคนที่ถูกเลี้ยงมาอย่างเข้มงวด เจ้าอารมณ์มีแนวโน้มที่จะวิตกกังวลมากกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงในครอบครัวที่มีเหตุผลและมีอารมณ์มั่นคง ในขณะที่เด็กบางคนที่ถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่มีแต่ผู้หญิง มีแนวโน้มที่จะอ่อนโยนเหมือนกับแม่ก็มิใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร หรือการที่เด็กได้รับแรงเสริมที่ทำให้มีความชอบที่แตกต่างไปจากเพศสภาพตอนเกิดก็ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้

เราจะเห็นได้ว่าความแตกต่างทางเพศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความหลากหลายของมนุษย์เท่านั้น หากเราตระหนัก เข้าใจและยอมรับว่าความแตกต่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนที่ต้องมี เปิดใจยอมรับตัวเอง ยอมรับคนอื่น เคารพในศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกัน เราก็จะสามารถพัฒนาเติบโต และอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข เพราะตัวเราเองมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เราเป็นผู้กำหนดและเลือกสิ่งต่างๆ ในชีวิตของเราเอง แม้จะมีความแตกต่างแต่เราก็เป็นเพียงมนุษย์คนนึงในความหลากหลายของของมนุษย์บนโลกใบนี้เหมือนกับคนอื่น